สารบัญ
Toggleฝากครรภ์ครั้งแรกต้องรู้อะไรบ้าง? คุณหมอสูติฯ ไขข้อข้องใจคุณแม่ตั้งครรภ์!
การเริ่มต้นบทบาทใหม่ในฐานะคุณแม่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยคำถามมากมาย หนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือการเข้ารับการฝากครรภ์ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์จะมีสุขภาพที่แข็งแรงตลอดการตั้งครรภ์ Brusta เข้าใจความกังวลของคุณแม่มือใหม่ จึงได้เชิญ นพ. พิชัย ลือประสิทธิ์สกุล สูตินรีเวชกรรม โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน มาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ในบทความนี้ซึ่งเป็นตอนแรกของซีรีส์ “Brusta ปรึกษาการฝากครรภ์กับคุณหมอพิชัย“ ที่จะคอยเป็นคู่มือให้กับคุณแม่ทุกคน
Q: คุณแม่จะทราบว่าตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ตอนไหน?
A: หลังประจำเดือนคลาดเคลื่อน 2 – 3 วัน คุณแม่ตรวจปัสสาวะด้วยตัวเองก็สามารถตรวจเจอได้แล้วว่าตั้งครรภ์ ขอแนะนำว่าถ้าตรวจเจอ 1 อันก็เพียงพอแล้ว คุณแม่บางคนตรวจเจอ 1 อันแล้วไม่มั่นใจทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ถ้าขึ้น 2 ขีดแล้วยังไงก็ตั้งครรภ์
Q: ความสำคัญของการฝากครรภ์ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดีจริงไหม?
A: แนะนำให้คุณแม่นัดพบคุณหมอตั้งแต่อายุครรภ์น้อย ๆ ในช่วงไตรมาส 1 พอทราบว่าตั้งครรภ์ ยิ่งพบแพทย์เร็วเท่าไร คำแนะนำต่าง ๆ ของคุณหมอจะช่วยทำให้การตั้งครรภ์ปลอดภัยและประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
Q: คุณแม่ควรเลือกโรงพยาบาลหรือคลินิกแบบไหนในการฝากครรภ์?
A: ขึ้นอยู่กับความสะดวกในการเดินทางเป็นหลัก ยึดจากที่พักอาศัยเป็นสำคัญที่สุด
Q: ฝากครรภ์ครั้งแรก คุณหมอจะตรวจอะไรคุณแม่บ้าง?
A: จะมีการซักประวัติก่อน ตรวจร่างกายดูความสมบูรณ์ของคุณพ่อคุณแม่ทั้ง 2 ฝ่าย โรคประจำตัวเบื้องต้น โดยทั่วไปถ้ามาพบหมอครั้งแรกจะมีการตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอดเพื่อดูความสมบูรณ์ของทารกในครรภ์ ในปัจจุบันที่เรากลัวคือการตั้งครรภ์นอกมดลูก ซึ่งพบบ่อยในสตรีที่มีประวัติมีลูกยาก การตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอดจะทำให้มั่นใจว่าถุงการตั้งครรภ์อยู่ในโพรงมดลูก ถ้าเราตรวจเจอว่าเป็นการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ ท้องผิดมดลูก เราสามารถหลีกเลี่ยงการผ่าตัดได้โดยใช้สารเคมีบำบัดฉีดยับยั้งเพื่อลดการผ่าตัดที่ไม่จำเป็น
Q: โรคทางพันธุกรรมที่หมอกังวลเป็นพิเศษ?
A: ที่หมอให้ความสนใจเป็นพิเศษคือธาลัสซีเมีย เพราะพบบ่อยในบ้านเรา เป็นความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง ถ้าฝ่ายหญิงเป็นพาหะฮีโมโกลบินอี ต้องไปเช็คฝ่ายชายว่าเป็นพาหะธาลัสซีเมียชนิดเบต้าหรือไม่ เพราะว่าถ้าความผิดปกติ 2 ชนิดนี้มาจับคู่กันจะทำให้ทารกในครรภ์โลหิตจางเรื้อรัง เด็กกลุ่มนี้ต้องถ่ายเลือดตลอดเวลาซึ่งอันตราย ถ้าครอบครัวมีประวัติธาลัสซีเมียต้องให้คำปรึกษาในเรื่องของพันธุกรรมให้ดี
Q: การตรวจเลือดโรคติดเชื้อ HIVและซิฟิลิสสำคัญแค่ไหน?
A: สมัยก่อนพบซิฟิลิสบ่อย ซึ่งโรคนี้อาจทำให้ทารกในครรภ์มีความพิการได้ หากตรวจพบ แพทย์จะรีบฉีดยาเพนิซิลลินเพื่อรักษา เนื่องจากยาจะผ่านรกได้ดีและช่วยรักษาทารกในครรภ์ได้ด้วย ในปัจจุบันซิฟิลิสจะพบได้น้อยลง หากคุณแม่เป็นโรคเอดส์ เราจะให้อายุรแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจัดยาให้คุณแม่ทาน เพื่อพยายามควบคุมปริมาณเชื้อในกระแสเลือดของคุณแม่ให้ต่ำที่สุด เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อสู่ลูกน้อยในครรภ์ หากไม่ได้รับการรักษา ลูกน้อยก็มีโอกาสสูงที่จะติดเชื้อเอดส์ได้ แต่ในปัจจุบัน เรามียาที่ช่วยควบคุมปริมาณเชื้อในกระแสเลือดของคุณแม่ให้ต่ำจนไม่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ และคุณแม่กลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะต้องผ่าตัดคลอด เพื่อลดความเสี่ยงที่ทารกจะได้รับบาดเจ็บหรือมีรอยถลอกตามผิวหนัง ซึ่งอาจทำให้เลือดแม่เข้าสู่กระแสเลือดของทารกได้ ดังนั้นหลักการคือคุณแม่ที่เป็นโรคเอดส์จะต้องทานยาในช่วงตั้งครรภ์และทำการคลอดโดยการผ่าตัดจะปลอดภัยกว่า
Q: คำแนะนำที่คุณหมออยากฝากคุณแม่เมื่อมาตรวจครรภ์ครั้งแรก?
A: ปัจจุบันคุณแม่มีแนวโน้มที่จะมีอายุเฉลี่ยสูงขึ้น และอาจมีโรคประจำตัวต่าง ๆ ได้ ซึ่งต่างจากในอดีตที่พบคุณแม่อายุน้อยและมีร่างกายแข็งแรงมากกว่า ดังนั้นการเตรียมสุขภาพร่างกายให้พร้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณแม่ทุกคนที่มาฝากครรภ์
Q: คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องเข้าฝากครรภ์กับคุณหมอกี่ครั้งถึงจะปลอดภัย?
A: การตั้งครรภ์เราแบ่งออกเป็น 3 ไตรมาส ไตรมาส 1 คือช่วงอายุครรภ์ 1 – 14 สัปดาห์ จะพบคุณหมอทุก ๆ 1 เดือน ไตรมาส 2 คือช่วงอายุครรภ์ 15 – 28 สัปดาห์ จะพบคุณหมอทุก ๆ 1 เดือนเช่นกัน แต่หลังจากเดือนที่ 7 เป็นไตรมาส 3 คือช่วงอายุครรภ์ 29 – 36 สัปดาห์ จะนัดถี่ขึ้นเป็นทุก ๆ 2 สัปดาห์ และเมื่ออายุครรภ์ยิ่งมากหลังขึ้นหลังอายุครรภ์ 36 สัปดาห์ขึ้นไปจะนัดถี่ขึ้น เป็นทุก ๆ 1 สัปดาห์
Q: ถ้าไม่มีอาการผิดปกติยังจำเป็นต้องมาฝากครรภ์ให้ครบตามนัดทุกครั้งไหม?
A: การมาฝากครรภ์ตามนัดทุกครั้งมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป้าหมายของการฝากครรภ์คือการลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ เช่น ครรภ์เป็นพิษ ซึ่งเป็นภาวะที่อันตราย หากเกิดอาการรุนแรงโดยเฉพาะในช่วงอายุครรภ์ 30 – 32 สัปดาห์ เนื่องจากปอดของทารกยังพัฒนาไม่เต็มที่หากคลอดก่อนกำหนด จะทำให้มีค่าใช้จ่ายในการดูแลสูงขึ้นมาก ดังนั้นการมาพบแพทย์ตามนัดจะช่วยให้คุณหมอสามารถเฝ้าระวังและให้คำแนะนำที่เหมาะสมได้อย่างต่อเนื่อง
การฝากครรภ์ตั้งแต่เริ่มต้นคือหัวใจสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีตลอดการตั้งครรภ์ การมาพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าทั้งคุณแม่และลูกน้อยปลอดภัยและแข็งแรง ขอขอบคุณคำแนะนำจาก นพ. พิชัย ลือประสิทธิ์สกุล ที่จะช่วยให้คุณแม่มือใหม่เตรียมพร้อมรับมือกับการตั้งครรภ์ได้อย่างมั่นใจ Brusta เข้าใจถึงความท้าทายและความสุขของการเป็นแม่ เราตระหนักว่าทุกย่างก้าวในเส้นทางนี้มีความหมาย จึงมุ่งมั่นที่จะเป็นเพื่อนร่วมเดินทางเคียงข้างคุณแม่ในทุกช่วงเวลา พร้อมนำเสนอความรู้และข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณแม่มั่นใจและมีความสุขในทุกบทบาท
ติดตามบทความ Brusta ปรึกษาการฝากครรภ์กับคุณหมอพิชัย ในตอนต่อไป เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการฝากครรภ์ในทุกไตรมาส

